ทำไม บริษัท รปภ.เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
บริษัทที่เกิดใหม่ส่วนมากเกิดจากพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความสามารถทางด้านรักษาความปลอดภัย
คลุกคลี่อยู่ในวงการ รปภ.เป็นเวลาพอสมควร เป็นลูกจ้างแล้วไม่สามารถดำเนินการตามความคิดของตนเองได้ ประกอบการจดทะเบียนบริษัททำได้ง่ายภายในวันเดียวเสร็จ หากมีต้นทุนหมุนเวียนตามกำลังพลของ รปภ.แล้ว มีความคิดที่อยากเป็นอิสระ มีอำนาจสั่งการในทุกๆ เรื่อง ที่ตนเคยคิดว่าง่ายหากปฏิบัติตามแนวคิดของตนด้วยอุปมา อุปมัยที่ว่า “เป็นหัวหมาดีกว่า เป็นหางราชสีห์”
การจัดตั้งบริษัทใหม่ๆ จัดตั้งง่าย แต่ที่ลำบากหรือไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้เนื่องจาก มี 2 กรณี คือ
1. การบริหารจัดการคน เนื่องจากต้องทำงานกับคนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป จะมากน้อยขึ้นอยู่ขนาดของบริษัท แรกๆ ก็ทุ่มเทให้กับบริษัท นานๆ เข้าความเหนื่อยล้าเข้ามาแทนที่ทำให้ความอดทนน้อยลง เคยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน พอความเหนื่อยล้าเข้าก็ให้หาคนมาช่วยงาน แต่กลับได้คนมาเพิ่มภาระให้ งานก็ไม่พ้นตนเองอีก
2. งบประมาณ ต้องคิดเสมอมา การคาดการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับงาน รปภ.นั้น จะเกิดขึ้นโดยไม่คาดการณ์ไว้ตามตารางค่าใช้จ่ายต่างๆ ของบริษัท และต้องคิดว่าบริษัท รปภ.ต้องทำงานให้ผู้ว่าจ้างก่อน 30 วัน จึงเก็บค่าบริการได้ และต้องเก็บค่าบริการได้ตรงกำหนด ต้องใช้เวลาประมาณ 40 วันเป็นอย่างเร็ว ใน 40 วัน บริษัทต้องสำรองค่าใช้จ่ายให้ รปภ. , สายตรวจ , ค่าน้ำมัน ฯลฯ หากได้รับตามกำหนดก็หายใจทั่วท้องไปเดือนหนึ่ง หากลูกค้าบางรายเลื่อนการชำระจาก 40 วัน เป็น 60 วัน หรือ 2 เดือน ต้องวิ่งหาทุนสำรองมาหมุนเวียนอีก แรกๆ ก็พอมีทุนสะสมอยู่บ้าง แต่นานๆ เข้าก็ไปไม่รอด ปิดบริษัท โยนภาระให้ผู้ว่าจ้างและ รปภ.อีก
โดยสรุปแล้วคนทุกคนอยากเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงานในความถนัดของตนเอง อยากเป็นเจ้าของกิจการของตนเองกันทั้งนั้น ไม่อยากเป็นลูกจ้างของใคร แต่การเตรียมการไม่ใช่ว่าอาศัยประสบการณ์และ/หรือ การเป็นคนไฟแรงมีมูลเหตุจูงใจเท่านั้น จะต้องมีองค์ประกอบหลายๆอย่างรวมกัน ใช่มีกำลังคนทำงานแล้วงบประมาณไม่มากก็ไปไม่รอด หากงบประมาณมากแต่บริหารคนไม่เป็นก็เพียงซื้อเวลาที่จะให้บริษัทอยู่รอดได้นานเท่านั้น ใช่แต่คิดว่าส่วนต่างของค่าบริการของรปภ. และค่าบริการลูกค้าต่างกันมากแล้ว จะมีรายได้เข้าบริษัทมาก คิดผิดแล้ว หากไม่มีการเตรียมการที่ดี มีความรู้ความสามารถ มีงบประมาณ การบริหารจัดการดี จึงตั้งบริษัทอยู่รอดได้ตลอดไป